วันพุธที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2559

#ฟิคแจบอมเสพจินยอง EP.9



[JAEBUM PART]

ผมคิดว่าครั้งนี้ผมอาจจะอด...เพราะเมื่อสองวันก่อนผมทำให้จินยองเจ็บปวดกับการกระทำของผมอย่างมาก ครั้งนั้นผมแทบจะไม่ได้ถนอมเขาเลยด้วยซ้ำ ถึงปากและใจจะบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าผมจะทำเบาๆ แต่เอาเข้าจริงความรู้สึกมันก็ไปก่อนเสมอ

ไม่มีครั้งไหนเลยที่เซ็กส์ของผมจะอ่อนโยนไม่ว่ากับใครก็ตาม

ครั้งนี้ก็เหมือนกัน ความรู้สึกของผมมันพุ่งสูงมากจนผมจะทนไม่ไหวแล้วถ้าหากจินยองไม่โน้มลำคอของผมลงไปใกล้ใบหน้าของเขา

การกระทำนี้ผมถือว่ามันการตอบรับละกันนะ

“ตกลง” เขาพูดเบาๆและหลับตาลงเหมือนยอมให้ผมทำได้ตามใจหมาย แน่นอนว่าผมไม่คิดจะทิ้งโอกาสนี้ไป เพราะผมก็ทนไม่ไหวแล้วเหมือนกัน แต่ทุกครั้งที่ผมลากไล้มือไปตามร่างกายของจินยอง จิตใต้สำนึกของผมมันก็สั่นสัญญาณเตือนว่า

ผมต้องถนอมเขา...

จินยองก็เหมือนแก้วใสๆที่แสนจะเปราะบาง หากผมเผลอทำหล่นหรือไม่ถนอมแก้วก็อาจจะแตกคามือ...

“อ๊ะ!” จินยองหลุดเสียงร้องออกมานิดๆเมื่อผมใช้ริมฝีปากของตัวเองลากไล้ไปทั่วแผ่นอกของเขา ปลายลิ้นลากเลียผิวเนื้อนุ่มอย่างบรรจงโดยไม่ลืมที่จะฝากรอยสีแดงเรื่อเอาไว้ด้วย

ริมฝีปากของผมยังคงลากเลียที่แผ่นอกของจินยองไปเรื่อยๆ แต่ฝ่ามือกลับเลื่อนลงต่ำหวังจะปลดกางเกงของจินยองออกและผมก็ใช้เวลาไม่นานกางเกงของจินยองก็ถูกโยนลงไปข้างเตียง ผมใช้ฝ่ามือฟ้อนเฟ้นไปทั่วต้นขาของจินยองอย่างหมันเขี้ยว ถึงเขาจะตัวเล็กแต่ก็ไม่ได้ผอมจนมีแต่กระดูก

ร่างกายของจินยองสมส่วน...และผิวเนื้อของผมก็เหมาะมือผมมากๆ

ผมไล้ริมฝีปากลงต่ำมาที่หน้าท้องแบนราบ ทุกระเบียดนิ้วที่ผมลากผ่านผมก็ฝากรอยรักสีแดงเอาไว้เสมอ

“อื้อ..” จินยองร้องครางทันทีที่ผมกัดลงไปที่เนื้อแถวๆเอวคอดของเขา ผมไม่ได้ตั้งใจกัดให้เป็นแผลแต่กัดแค่ให้รู้สึกหายหมันเขี้ยวก็เท่านั้น

บางครั้งผมก็รู้สึกว่าตัวเองเป็นหมาป่าที่กระหายอยาก...และจินยองก็คือลูกกวางตัวน้อยๆที่หลงทางมาเจอกับผม

มีความรู้สึกแว๊บนึงที่ผมสงสารเขา...แต่ผมทำใจปล่อยเขาไปไม่ได้

“ร้องออกมา...ร้องดังๆ” ผมบอกเขาด้วยเสียงแหบพร่าจากนั้นก็กระชากอันเดอร์แวร์ที่ร่างเล็กสวมใส่อยู่ออกไป จนสุดท้ายร่างกายที่ไร้สิ่งปกปิดของจินยองก็ปรากฏอยู่ตรงหน้าผม ผมพึงพอใจในการกระทำของตัวเอง

ผมลุกขึ้นนั่งและจัดการถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกโดยที่ผมไม่ได้ละสายตาไปจากร่างกายของจินยองเลย ผมเห็นเขานอนหอบหายใจอย่างรุนแรง เหงื่อกาฬก็ไหลท้วมร่างกายขาวเนียน พอยิ่งเห็นแบบนั้นผมก็ยิ่งอยากจะขย้ำ

เมื่อเสื้อผ้าหลุดออกจากร่างกายของผม ผมก็โน้มตัวลงทาบทับจินยองอีกครั้ง แต่ก่อนที่ผมจะเริ่มกิจกรรมทุกๆอย่างผมก็เอื้อมมือไปหยิบเจลหล่อลื่นในลิ้นชักหัวเตียงออกมา

ผมคิดว่าถ้าผมไม่ใช้เจลจินยองต้องขาดใจตายแน่ๆ

ผมไล่สายตามองไปตามร่างกายของจินยองจนกระทั่งไปหยุดอยู่ที่ใบหน้าขาวเนียนของเขา บอกได้คำเดียวว่าเขาโคตรจะมีเสน่ห์ เป็นเสน่ห์ที่มีผมคนเดียวที่จะได้เห็น ผมไม่มีวันปล่อยให้เขาไปทำแบบนี้กับใครหรอก...ไม่มีวัน

“อ๊า...” จินยองร้องครางอีกครั้งเมื่อผมป้ายเจลลงบนส่วนกางลำตัวของเขาและใช้มือรูดขึ้นรูดลงช้าๆเป็นจังหวะ เอาจริงๆผมก็ไม่น่าจะมาทำอะไรแบบนี้เพราะความรู้สึกของผมมันเอ่อล้นจนทนไม่ไหวแล้ว แต่ที่ผมยอมเสียเวลาเพราะผมต้องการการตอบสนองที่ดีกว่า

และแน่นอนว่ามันเป็นไปตามที่ผมคิด...

จินยองจิกนิ้วลงที่ผ้าปูเตียงและขยุ้มมันจนยับ ร่างกายของเขาเกร็งแน่นเพราะความเสียวซ่านจากสัมผัสของผม ผมทำแบบนั้นกับเขาต่ออีกครู่เดียวก็เปลี่ยนไปบีบๆนวดๆที่ซอกขาด้านในแทน และมันก็อดใจไม่ไหวที่จะไม่กัดลงไปตรงเนื้อนุ่มนั้น

“เจ็บ...” ผมว่าผมก็กัดไม่แรงนะแต่ทำไมจินยองถึงร้องออกมาก็ไม่รู้ พอผมรู้ว่าเขาเจ็บผมก็ยอมหยุดให้...เพราะมันมีอะไรที่น่าสนใจกว่า

ผมบีบเจลลงบนฝ่ามือและป้ายไปที่บริเวณช่องทางด้านหลังของจินยอง ทุกขณะที่ผมทำสายตาของผมก็มองไปที่ใบหน้าของจินยองตลอด มันละสายตาไม่ได้เลย...

“อื้อ...อ๊า...” จินยองเปล่งเสียงร้องครางออกมาอีกครั้งเมื่อผมส่งนิ้วเข้าไปสำรวจร่างกายของเขา ความรู้สึกมันนุ่มนิ่มและอุ่นมาก ภายในร่างกายของจินยองให้ความรู้สึกดีแตกต่างจากคนอื่นๆที่ผมเคยสัมผัส

เขาพิเศษกว่าใครๆ...

“ร้องอีกสิจินยอง...” ผมก้มลงกระซิบบอกกับเขาและกระแทกกระทั้นนิ้วมือเข้าออกเร็วขึ้น รู้ไหมว่าเพียงแค่นิ้วเมื่อของผมจินยองก็เกร็งไปทั้งตัว...

“อื้อ...แจบอม...” จินยองเชิดหน้าขึ้นและร้องครางเรียกชื่อผม นั้นยิ่งทำให้ผมรู้สึกพึงพอใจ เหมือนจินยองจะรู้ว่าเขาควรทำอะไรเวลาขึ้นเตียงกับผม จินยองไม่ใช่คนโง่ เขาแค่ซื่อ...

นั้นแหละคือเสน่ห์ของเขา...ผมไม่ชอบหรอกนะคนที่เจนจัดไปซะทุกเรื่องเพราะมันไม่มีอะไรให้ตื่นเต้น

แต่แบบที่จินยองเป็นนั้นแหละ...ถูกใจผมที่สุดแล้ว

“อะไร...เรียกทำไม หื้ม?” ผมรู้ว่าจินยองเสียวแต่ผมก็ยังอยากแกล้งเขา เวลาที่เขาถึงจุดสูงสุดมันเป็นช่วงเวลาที่เขาโคตรจะเซ็กซี่และช่วงเวลานั้นแหละที่ปลุกอารมณ์ของผมได้ดีที่สุด ดังนั้นผมต้องรีบทำให้จินยองเสร็จไวๆ ผมถึงจะเริ่มได้...

“อ๊ะ...อ่า...” จินยองครางเสียงกระเส่าอีกครั้งเมื่อผมเร่งจังหวะมือให้เร็วขึ้น สองมือบางขย้ำผ้าปูเตียงจนไม่รู้จะยับยังไงแล้ว และดูเหมือนว่ามันจะไม่สาแก่ใจ ผมก็เลยดึงมือของจินยองมาไว้ที่ลาดไหล่ของผม

“ระบายความรู้สึกออกมา...” ผมบอกเขาและเร่งจังหวะขึ้นเรื่อยๆ สัมผัสของผมมันคงรุนแรงมากสำหรับจินยอง สองมือของเขาบีบขย้ำไหล่ของผมอย่างแรงเหมือนต้องการระบายความรู้สึกที่มีอยู่ภายใน

และไม่นานร่างของจินยองก็กระตุกเกร็งก่อนจะปล่อยน้ำสีขาวขุ่นออกมา จินยองหอบหายใจแรงๆจนหน้าอกของเขาขยับขึ้นลงเป็นจังหวะ

“อือ...” แถมด้วยเสียงครางต่ำจากลำคอระหงส์ ผมชักนิ้วมือออกและเลื่อนไปรีดเอาน้ำสีขาวขุ่นนั้นออกมาจนเปรอะเปื้อนมือผม จากนั้นผมก็ใช้มือข้างนั้นแหละรูดชักแกนกายของตัวเองที่ตอนนี้ขยายใหญ่เต็มที่และพร้อมจะทำงาน

“จินยอง...” ผมเรียกชื่อเขาด้วยน้ำเสียงที่แหบพร่า จินยองปรือตามองผมนิดๆ

“อะ...อ๊า...” ผมใช้จังหวะที่จินยองมองหน้าผมนั้นแหละในการกระแทกแกนกายเข้าไปในร่างกายของเขา แต่เพราะนี่เป็นครั้งที่สองของจินยอง ร่างกายของเขาเหมือนจะไม่รับสิ่งแปลกปลอมจากภายนอก

“อ่า...อย่าเกร็ง” ผมกัดฟันพูดบอกเขาขณะที่พยายามดันกายเข้าไปให้มากกว่านี้ ความรู้สึกเหมือนวันนั้นที่ผมทำแบบนี้กับจินยองเลยมันทั้งแน่นและคับแคบ ยากมากที่จะเข้าไป...แต่มีหรือที่ผมจะยอม

“ฮึก...เจ็บ...แจบอม...เจ็บ” จินยองร้องไห้ออกมาทันทีที่ผมพยายามกระแทกกายเข้าไปเรื่อยๆ น้ำตาใสๆเอ่อคลอที่ดวงตากลมของเขาและมันก็ไหลผ่านหางตาลงไปกระทบกับหมอน สองมือของจินยองจิกลงที่ไหล่ของผมแรงกว่าเดิม ร่างกายของเขาหดเกร็งบีบรัดจนผมรู้สึกปวดหนึบไปหมด

จินยองเกร็งมากกว่าครั้งแรกเสียอีก

“ถ้าเจ็บก็อย่าเกร็ง...อย่า” ผมบอกเขาอีกครั้งหวังว่าเขาจะทำตามที่ผมบอกแต่ที่ไหนได้ จินยองกลับส่ายหน้าไปมา

“ไม่เอาแล้ว...อือ...ไม่เอา” เขาร้องปฏิเสธผมแถมยังใช้มือทั้งสองดันหน้าท้องของผมให้ออกห่างจากตัวเขาด้วย แต่ผมปล่อยให้เป็นแบบนั้นไม่ได้หรอก มาถึงขนาดนี้แล้วถ้าผมหยุดเท่ากับผมจะขาดใจตาย

“ไม่เอาน่าจินยอง...อย่าเกร็ง” ผมรวบรวมสติและบอกเขาไป แต่จินยองเป็นคนดื้อ เวลาเขาดื้อก็ดื้อสุดๆ

“ไม่เอา...เราเจ็บ...ฮือ..” เขาบอกว่าเจ็บและพยายามดันผมออกห่างลูกเดียวเลย ผมจะบ้าตาย ตอนนี้ทุกอย่างมันค้างคาครึ่งๆกลางๆอยู่แบบนี้ จะเข้าก็ไม่ได้ จะออกก็ไม่ดี

“จินยอง...” ผมใช้มืออีกข้างที่ไม่เปื้อนเช็ดน้ำตาให้เขา “...อย่าเกร็งนะ ถ้าเกร็งจะเจ็บ” พูดบอกไปอย่างใจเย็นทั้งๆที่เลือดในกายวิ่งพล่านจนแทบทนไม่ไหว ผมอยากกระแทกเข้าไปแรงๆขยับเร็วๆให้สาแก่ใจ แต่ทำไม่ได้ จินยองคงทนไม่ไหว

“ฮึก...” เขาสะอึกสะอื้นอยู่แบบนั้นจนผมทนไม่ไหว น้ำตาของจินยองเหมือนน้ำกรดรดลงกลางใจของผม ยิ่งเขาร้องออกมามากเท่าไรผมก็ยิ่งสงสาร แต่ผมหยุดไม่ได้ จินยองจะเข้าใจไหม

“จินยอง หยุดร้องไห้...” ผมบอกเขา

“ฮึก...” แต่เขาก็ยังสะอื้นและไม่ลดอาการเกร็งลงเลย

“หยุดร้อง...” ผมเริ่มหมดความอดทนแล้ว ก็เลยพูดด้วยน้ำเสียงที่กดต่ำลง ถ้าจินยองยังพูดไม่รู้เรื่องแบบนี้คงจะมีเลือดตกยางออกแล้วล่ะ...

และก็จริงๆด้วย เขาไม่ยอมหยุดร้องไห้และหยุดเกร็งเลยสักนิด

ความอดทนของผมหมดลงแล้วจริงๆ

“อ๊ะ...อ๊า...” จินยองร้องลั่นห้องด้วยความเจ็บปวดเมื่อผมกระแทกกายเข้าหาเขาอย่างรุนแรง แกนกายของผมเข้าไปอยู่ในตัวของจินยองแล้วความอุ่นร้อนจากร่างกายของจินยองห้อมล้อมกายผมไว้ทั้งแท่ง แรงบีบรัดของเขาทำให้ผมจะบ้าตาย

ยิ่งเกร็งผมยิ่งขยับไม่ได้

“อ่า...จินยอง” ผมเรียกชื่อเขาด้วยน้ำเสียงแหบต่ำ มือสองข้างยับเตียงไว้และก้มลงจ้องหน้าของจินยองที่ตอนนี้มีแต่น้ำตา เขาได้ยินเสียงผมเขาก็เลยหันมามอง..

“ฮึก...เจ็บ..” เขาบอกผมแค่นั้นแล้วก็สะอื้นออกมาอย่างหนัก จะว่ายังไงล่ะ ตัวของจินยองสั่นไปหมดเขาดูเหมือนลูกนกเปียกฝนเลย

“รู้แล้วว่าเจ็บ...แต่อย่าเกร็งนะ” ผมปลอบประโลมจินยองด้วยความอ่อนโยนจากนั้นก็ก้มลงหอมแก้มเขาทั้งสองข้างเบาๆก่อนจะไล้จมูกไปซุกไซ้ซอกคอขาวเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของจินยอง

ทำอยู่แบบนั้นประมาณนาทีกว่าๆผมถึงรู้สึกได้ว่าจินยองเริ่มคลายอาการเกร็ง ตอนนั้นแหละผมถึงขยับกายเข้าออก เริ่มจากช้าๆและค่อยๆไต่ระดับเพิ่มความเร็ว

...ทนแทบจะไม่ไหวแล้ว

“อ๊ะ!...อ๊า...แจบอม...อ๊า”


[JINYOUNG PART]


บอกได้คำเดียวเลยว่า..ผมเจ็บ เจ็บมากกว่าที่เคย เจ็บจนทนแทบจะไม่ไหว แต่ผมก็ต้องกัดฟันกลั้นใจอดทนไปจนกว่าแจบอมจะพอใจ ผมไม่รู้ว่าเมื่อไรเขาจะหยุด...ไม่รู้เลย

“อ่า...แจบอม...พอเถอะ...” ผมบอกเขาขณะที่ร่างกายของเรากำลังสอดประสานเป็นจังหวะเดียวกัน เหงื่อของเราทั้งสองคนโชกไปทั่วทั้งร่างทั้งๆที่อุณหภูมิในห้องนั้นเย็นเฉียบ ผมอยากให้แจบอมหยุดลงซะตอนนี้เลยเพราะผมต่อไปไม่ไหวแล้ว

“ยัง...หยุด...ไม่ได้” แจบอมตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงขาดห้วงและตามมาด้วยแรงกระแทกที่รุนแรงกว่าเดิม คำพูดปฏิเสธของเขาเหมือนสายลมที่ดับแสงเทียนของผม ความหวังที่ว่าแจบอมจะหยุดมันได้หายไปแล้ว

 “แจบอม...อ๊า!

สิ่งที่เหลืออยู่ในตอนนี้ก็มีแค่แรงกระแทกที่ถาโถมเข้ามาและเสียงร้องครางของผมก็เท่านั้น...




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น